ระหวาางปิดเรียนภาคปลายsummer term พ่อของปิติไม่ได้ทำนาเพราะไม่มีน้ำ พ่อแม่และพี่ๆ ของปิติจึงอยู่บ้าน พ่อซ่อมแซมเครื่องมือต่างๆ พอว่างก็ถักยอweave square fish netsและสานกระชุweave bamboo baskets แม่กับพี่สาวทอผ้าซิ่นweave thai style long skirtsไว้ใช้ ปิติช่วยงานบ้านอย่างขยันขันแข็งdiligent, hard working เป็นการแบ่งเบาภาระlighten the loadของยายได้มาก งานสิ่งใดที่ยายกำหนดให้ เขาจะกระวีกระวาดhasten toทำจนเสร็จเรียบร้อย ทุกคนดีใจที่ปิติเป็นคนเอาการเอางานtake on work และมีน้ำอดน้ำทนpatience, forbearanceดีขึ้น ไม่ต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชprod, urge on repeatedlyเหมือนก่อน
ปิติทำการบ้านและทบทวนความรู้ที่เรียนมาแล้วอยู่เสมอ เวลาว่างก็เล่นกับน้อง หรือมิฉะนั้นotherwiseก็คุยกับยาย พ่อแม่และพี่ๆ บางครั้งบางคราวsometimesเขาขออนญาตพ่อไปเที่ยวสนุกกับเพื่อนๆ พ่อจะอนุญาตเสมอ เพราะพ่อสังเกตเห็นว่าปิติมีความประพฤติดีgood conduct, behavior ไม่เที่ยวเตร่wander, loiterเถลไถลgo astray, dilly-dallyอย่างเคย เขารู้จักรับผิดชอบดีขึ้น ปิติและเพื่อนๆ ไปมาหาสู่กันgo and come visit each otherเป็นประจำ ยิ่งนานวันความรักใคร่affection, loveกลมเกลียวget along well, harmonyก็ยิ่งกระชับfit closely, strengthen a bondแน่นแฟ้นtight, snug, secureมากขึ้น
เย็นวันหนึ่ง มานะ วีระ มานีและชูใจมาเที่ยวที่บ้านของปิติอีก ยายบอกให้พวกเด็กๆ เล่นอยู่ในบ้าน ไม่ให้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน เพราะกลัวหมาบ้ากัด ฤดูนี้อากาศร้อนจัดvery hot weatherหมามักจะเป็นบ้า ปิติพาเพื่อนๆ ไปที่ต้นมะเดื่อ เพราะเขาทำกระโจมteepee style tent, shelterไว้นอนเล่นที่นั่น เพื่อนๆ ชอบกระโจมของปิติมาก มันกะทัดรัดและบังแดดblock sunlightได้มิดชิดout of sight, hidden completely, shut tightดี ปิติเล่าให้เพื่อนๆ ฟังว่า เมื่อวานซืนมีลมแรงพัดมาปะทะcollide, batterกระโจม ทำให้กิ่งไม้ที่วางประกบsplice, mesh, dovetailกันไว้หล่นกระจัดกระจายscatterจนทะลุเป็นช่อง พอเขาหากิ่งไม้มาซ่อม กระโจมก็ล้มลง เขาต้องไปคะยั้นคะยอpester, beg, imploreให้พี่ชายมาช่วยซ่อมแซมให้ พี่ของเขารับประกันto assureว่ามันจะไม่ล้มคะมำtopple, fall flat on one’s faceลงมาอีกแน่นอน เพราะใช้เชือกมัดตรึงbind together securelyเอาไว้แน่นหนาstrong, secure
ชูใจบอกว่าอยากได้กระโจมบ้าง จะได้หลบไอแดดheat of the sunเข้าไปนอนพักผ่อนหย่อนใจrest and relaxเล่นเหมือนปิติ วีระ มานะto persevere, to endure มานีdiligent, persevering person และปิติรับรองaffirm, assureแข็งขันstrongly, vigorouslyว่า ว่างๆ จะระดมกำลังmobilize, marshall forcesไปช่วยทำให้
ชูใจencourage, heartenกระหยิ่มยิ้มย่องlook pleasedด้วยความยินดี เขาระลึกความห่วงใยworry, anxietyและความเอาอกเอาใจtry to pleaseของเพื่อนๆ เสมอ ไม่ว่าจะต้องการสิ่งใด ถ้าเพื่อนพอจะขวนขวายtry hard to, make an effortหาให้ได้เป็นต้องรีบหามาให้จนได้ ยิ่งมานีด้วยแล้ว ถ้าเห็นชูใจทำหน้าละห้อยsad, melancholyหรือมีท่าทางกระวนกระวายใจanxiousเมื่อไร เป็นต้องซักไซ้ไล่เลียงinterrogate, question closelyหาสาเหตุทันที ชูใจรู้ดีว่าเพื่อนๆ สงสารตนเพราะไม่มีพ่อแม่และย่าก็แก่มากแล้ว
มานีถามขึ้นว่า “เราจะเล่นอะไรกันดีล่ะ” ปิติบอกว่า “เล่นซ่อนหา” วีระแกล้งทำต่อ “หาอะไร” มานะยิ้ม แล้วตอบว่า “หากระปุกcanister, jar” พอทุกคนได้ฟังก็หัวเราะ ชูใจพูดว่า “สนุกดี เรามาเล่นถามตอบกันดีกว่า เอาละ ฉันจะถามมานะ กระปุกอะไร”
มานี้ “กระปุกออมสินpiggy bank”
ปิติ “สินwealth, assetsอะไร”
วีระ “สินค้า”
มานะ “ค้าอะไร”
ชูใจพูดว่า “เราถามตอบวนgo aroundกันไปอย่างนี้ ใครถามหรือตอบแล้ววกturn aroundกลับไปคำเดิมได้ คนนั้นชนะ อ้อ! คำเดิมของเราว่าอย่างไรนะมานี” มานีตอบว่า “คำแรกฉันพูดว่า เล่นอะไรจ้ะ” ชูใจพูดต่อ “ถ้าเช่นนั้น ฉันจะตอบที่พี่มานะถามว่า ค้าอะไรนะ ค้าระหัด”
มานี “ระหัดอะไร”
ปิติ “ระหัดไม้”
วีระ “ไม้อะไร”
มานะ “ไม้เท้า”
ชูใจ “เท้าอะไร”
มานี “เท้าลิง”
ปิติ “ลิงอะไร”
วีระ “ลิงลมslow loris”
มานะ “ลมอะไร”
ชูใจหัวเราะก่อนตอบว่า “ลมหมุนwhirlwind, vortex, epilepsy”
มานี “หมุนอะไร”
ปิติ “หมุนเล่น ไชโย! ฉันชนะแล้ว เพราะฉันบอกกลับมาที่คำว่า เล่น ได้” ทุกคนตบมือให้ ปิติขอบใจเพื่อนๆ แล้วยิ้มระรื่นjoyfully
- + - + - + - + - + - + - + -